Tag: ขนม

  • สูตรขนมไทย – ขนมมันรังนก

    สูตรขนมไทย – ขนมมันรังนก

    ส่วนผสมขนมมันรังนก มันเทศหัวใหญ่ 1 กก. (ปอกเปลือกไสให้เป็นเส้นยาว) น้ำตาลปี๊บ ½ กก. น้ำมันพืช ½ กก. น้ำดอกไม้สด 5 ถ้วย วิธีทำขนมมันรังนก 1. เอาน้ำมันพืชใส่กระทะตั้งไฟรอให้ร้อน 2. พอน้ำมันร้อนได้ที่ นำมันเทลงทอดให้เหลืองกรอบ จึงตักขึ้นใส่ภาชนะพักไว้ให้เย็น 3. นำกระทะตั้งไฟอีกครั้ง เทน้ำดอกไม้สด ตามด้วยน้ำตาลปี๊บเคี่ยวให้เป็นยาง เทมันลงไปคนให้เข้ากัน คนต่อไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลแห้ง แล้วตักทำเป็นก้อนวางเรียงในภาชนะที่เป็นตะแกรง

  • สูตรขนมไทย – ขนมเม็ดขนุน

    สูตรขนมไทย – ขนมเม็ดขนุน

    ส่วนผสมขนมเม็ดขนุน ถั่วเขียว 2 ลิตร (ไม่ให้แตกแช่น้ำ 1 คืน) มะพร้าว 1 กก. น้ำตาลปี๊บทราย 1 กก. ไข่เป็ด 7 ฟอง น้ำตาลปี๊บ 1 กก. วิธีทำขนมเม็ดขนุน 1. นำถั่วเขียวไปโม่ให้ละเอียด พอได้แล้วเอากระทะทองเหลือง ตั้งไฟเทน้ำลงไปต้มให้เดือด 2. ใส่น้ำตาลปี๊บ ถั่วเขียว มะพร้าว เคี่ยวให้เดือดและกวนต่อจนเหนียวและแห้ง เสร็จแล้วยกลงพักไว้ให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลมยาวพักไว้ก่อน 3. นำกระทะทองเหลืองตั้งไฟ ผสมน้ำประมาณ 20 ถ้วย เทน้ำตาลลงไป คนให้ละลาย กรองด้วยผ้าขาวบางให้สะอาด เคี่ยวต่อจนน้ำตาลเหนียวจัด 4. ต่อยไข่เอาแต่ไข่แดง ตีให้แตก เอาเม็ดถั่วที่ปั้นไว้ลงชุบกับไข่แดง แล้วเอาลงเชื่อมให้สุก ทำอย่างนี้จนหมดถั่ว

  • สูตรขนม – ขนมไข่นกกระทา

    สูตรขนม – ขนมไข่นกกระทา

    สูตรขนม – ขนมไข่นกกระทา ส่วนผสม ขนมไข่นกกระทา มันเทศหรือเผือกนึ่งสุกบดละเอียด 3/4 ถ้วยตวง น้ำตาลทรายเม็ดเล็ก 1/4 ถ้วยตวง เกลือป่น 1 ช้อนชา แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วยตวง แป้งสาลี 1/4 ถ้วยตวง น้ำมันพืชสำหรับทอด 3 ถ้วยตวง วิธีทำขนมไข่นกกระทา 1. ผสมแป้งมันสำปะหลังและแป้งสาลีเข้าด้วยกันในภาชนะ 2. ใส่มันเทศต้มสุก นวดให้เข้ากันและเนื้อเนียนเข้ากับแป้งเป็นเนื้อเดียวกันประมาณ 20 นาที 3. ใส่น้ำตาลทรายเม็ดเล็กและเกลือป่น นวดให้เป็นเนื้อเีดียวกันประมาณ 10 นาที พักแป้งไว้ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง 4. ปั้นเป็นก้อนกลมรี ๆ คล้ายไข่นกกระทา 5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชตั้งไฟให้ร้อน นำขนมที่ปั้นแล้วลงทอด ใช้ทัพพีโปร่งกดเบา ๆ ให้ทั่วจนกระทั่งขนมสุกเหลือง จึงตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน

  • สูตรขนม – ขนมโตเกียว

    สูตรขนม – ขนมโตเกียว

    สูตรขนม – ขนมโตเกียว ส่วนผสม ขนมโตเกียว  + ส่วนผสมทำตัวแป้ง + ไข่ไก่ 4 ฟอง แป้งสาลี 2 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง น้ำ 3/4 ถ้วยตวง โซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนชา + ส่วนผสมไส้ขนมโตเกียว + ไข่ไก่ 4 ฟอง แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ นมข้น 1 กระป๋อง กลิ่นวานิลา 1 ช้อนโต๊ะ เนย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำ 3/4 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/2 ช้อนชา ไส้กรอก (แล้วแต่ความชอบ) แยมผลไม้ (แล้วแต่ความชอบ) วิธีทำขนมโตเกียว 1. ทำตัวแป้งโดยผสมน้ำเปล่ากับโซดาไบคาร์บอเนต…

  • สูตรขนม – ขนมรังผึ้ง

    สูตรขนม – ขนมรังผึ้ง

    สูตรขนม – ขนมรังผึ้ง ส่วนผสม ขนมรังผึ้ง แป้งข้าวเจ้า 4 ถ้วยตวง แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ ถั่วเหลืองต้มบดละเอียด 4 ถ้วยตวง ไข่ไก่ (ใช้เฉพาะไข่ขาว) 4 ฟอง หัวกะทิ 6 ถ้วยตวง น้ำตาลปี๊บ 3/4 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง เกลือป่น 1 ช้อนชา วิธีทำขนมรังผึ้ง 1. นำแป้งไปผสมกับ น้ำตาลทราย, เกลือ และถั่วต้มบด คนจนส่วนผสมเข้ากันดี 2. นำไข่ขาวไปตีจนขึ้นฟู จากนั้นจึงนำไปเทผสมกับแป้งที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่หนึ่ง คนจนส่วนผสม ทั้งหมดเข้ากันทั่ว 3. ทาน้ำมันบางๆทั่วแบบพิมพ์ ตักส่วนผสมแป้งเทลงในแบบ พอท่วมให้รีบปิดฝาบนทันที กลับพิมพ์ไปมาทั้งสองด้านให้ถูกความร้อนจนสุกเหลืองทั่ว จึงเคาะออกจากแบบ 4. เสริฟทันทีขณะร้อนๆ หรือ เสริฟทานพร้อมกับไอศครีม (หรือทานกับแยมผลไม้ด้วยก็ได้)

  • สูตรอาหารเด็ก – ขนมดอกจอก

    สูตรอาหารเด็ก – ขนมดอกจอก

    สูตรอาหารเด็ก – ขนมดอกจอก ส่วนผสม ขนมดอกจอก แป้งข้าวเจ้า   1 ถ้วย แป้งสาลี   1 ถ้วย แป้งมัน    1 ถ้วย ไข่เฉพาะไข่แดง    1 ฟอง น้ำมันพืช    1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล   3 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น    1 ช้อนชา งาเมล็ดเล็กคั่วให้หอม   ½ ถ้วย น้ำปูนใส   ½ ถ้วย น้ำมันสำหรับทอด   3 ถ้วย วิธีทำขนมดอกจอก ผสมแป้งทั้งสามชนิดเข้าด้วยกัน ใส่น้ำปูนใสและน้ำเปล่าคนพอทั่ว ใส่ไข่แดงคนให้เข้ากัน ใส่น้ำมันพืช เกลือป่นและงา คนให้เข้ากันอีกที ใส่น้ำมันลงในหม้อลึกตั้งไฟให้น้ำมันร้อน (ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน) พับกระดาษฟางให้หนาๆ ใช้เช็ดก้นพิมพ์โดยวิธีวางพิมพ์ลงบนกระดาษซับแล้ว จุ่มพิมพ์ลงในแป้งให้พอดีหรือค่อนพิมพ์ แล้วจึงจุ่มพิมพ์ลงในหม้อน้ำมันจุ่มเพียงครึ่งพิมพ์ พอแป้งอยู่ตัวจึงกดพิมพ์ลงก้นหม้อ แล้วจึงค่อยสะบัดแป้ง ออกจากพิมพ์ทอดให้เหลือง ใช้ทัพพีโปร่งตักออกวางบนกระดาษซับน้ำมัน ปล่อยให้เย็นจึงเก็บใส่กล่องปิดฝาใช้เป็นขนมน้ำชาหรือขนมสำหรับเด็กๆ

  • สูตรอาหารเด็ก – ขนมปุยฝ้าย

    สูตรอาหารเด็ก – ขนมปุยฝ้าย

    สูตรอาหารเด็ก – ขนมปุยฝ้าย ส่วนผสม ขนมปุยฝ้าย ไข่เป็ด   2 ฟอง น้ำตาลทราย     1 ถ้วย แป้งเค้ก    1 ½ ถ้วย น้ำมะนาว    1 ช้อนโต๊ะ น้ำ   4 ช้อนโต๊ะ กลิ่นมะลิ หรือวานิลลา (วานิลลา 1 ช้อนชา หรือมะลิ   2 หยด) วิธีทำขนมปุยฝ้าย ตีไข่ให้ขึ้น ใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมดน้ำตาล ไข่ขึ้นฟูดี ยกขึ้นดู จะเห็นว่าไข่ติดที่ตีไข่ไม่หยด ใส่แป้งลงในไข่ทีละ  2 ช้อนโต๊ะ คนเบาๆ คนโดยวิธีพลิกจากข้างล่างมาข้างบน คนพลิกกลับไปมาพอแป้งเข้ากันดี ใส่น้ำเปล่าที่ผสมน้ำมะนาว และวานิลลาหรือน้ำมะลิ สลับกันกับแป้งจนหมด  ลงท้ายด้วยแป้งคนให้ทั่ว ตักหยอดลงในกระทะกระดาษ รองด้วยถ้วยตะไล หยอดให้เต็มกระทง วางเรียงลงใสลัง (อย่าวางปิดรู พยายามวางให้รูลังถึงอยู่รอบๆ ถ้วยขนม เพื่อให้ไอขึ้นโดยรอบขนมจะแตกสวย) ใส่น้ำลงในลังถึง  ¾…

  • สูตรขนมไทย – ขนมสำปันนี

    สูตรขนมไทย – ขนมสำปันนี

    ส่วนผสมขนมสำปันนี แป้งสาลี 1 ถ้วย หัวกะทิ 2 ถ้วย น้ำตาลทราย 2 ถ้วย สีสำหรับใส่ขนม วิธีทำขนมสำปันนี 1. นำกะทิและน้ำตาลใส่กระทะทองเหลืองตั้งไฟให้เดือด คนจนน้ำตาลละลาย จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง 2. เมื่อกรองแล้วให้เทใส่กระทะอย่างเดิม เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลจับขอบกระทะ 3. ร่อนแป้งลงใส่กระทะทีละน้อย ใส่สีตามความต้องการ จนสุกแล้วยกลงวางไว้ คนต่อให้แห้งแล้วตักใส่แม่พิมพ์ จากนั้นเคาะออกจากแม่พิมพ์ 4. นำใส่ขวดโหลอบด้วยควันเทียน

  • สูตรขนมไทย – ขนมสาคูเม็ดบัว

    สูตรขนมไทย – ขนมสาคูเม็ดบัว

    ส่วนผสมขนมสาคูเม็ดบัว สาคูเม็ดใหญ่ 2 ถ้วย เม็ดบัว 3 ถ้วย ลูกชิด 1 ถ้วย มะพร้าว ½ กก. น้ำตาลทราย ½ กก. น้ำดอกไม้สด 5 ถ้วย เกลือป่น 1/3 ช้อนชา วิธีทำขนมสาคูเม็ดบัว 1. คั้นกะทิด้วยน้ำเปล่า 13 ถ้วย ใส่ภาชนะพักไว้ก่อน 2. ลวกสาคูให้สุก ต้มเม็ดบัวให้เปื่อย 3. นำทั้ง 2 อย่างและลูกชิดลงผสมในหม้อกะทิ โรยเกลือลงไปคนให้เข้ากัน 4. นำน้ำตาลทรายผสมกับน้ำดอกไม้ เทใส่กระทะทองเหลืองตั้งไฟเคี่ยวให้น้ำตาลละลายกรองด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นเทกลับลงที่เดิม แล้วเคี่ยวน้ำตาลให้เหนียว 5. เมื่อได้ที่แล้วพักไว้ให้เย็น เอาน้ำเชื่อมใส่กับกะทิและรับประทานกับน้ำแข็ง

  • สูตรขนมไทย – ขนมสาคูเปียก

    สูตรขนมไทย – ขนมสาคูเปียก

    ส่วนผสมขนมสาคูเปียก สาคูเม็ดเล็ก ½ กก. น้ำตาลทราย ½ กก. หัวกะทิ 2 ถ้วย หัวกะทิ 5 ถ้วย เกลือป่น ½ ช้อนชา วิธีทำขนมสาคูเปียก 1. ล้างสาคูเม็ดเล็กให้สะอาด เมื่อได้แล้วนำไปใส่หม้อเทน้ำดอกไม้สดลงไป ยกขึ้นตั้งไฟ 2. เมื่อยกขึ้นตั้งไฟแล้วเคี่ยวให้สุกเทน้ำตาลลงไป กวนให้เหนียว เมื่อได้ที่แล้วให้ยกลง 3. เอาหัวกะทิใส่เกลือ คนให้เข้ากัน เวลารับประทานให้หยอดหัวกะทิ จะมากหรือน้อยตามใจชอบ